59 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อพูดถึงการรับกลิ่น สุนัขมีข้อได้เปรียบเหนือมนุษย์อย่างชัดเจน เพื่อนสี่ขาเหล่านี้มักถูกพึ่งพาให้ทำภารกิจสำคัญหรือแม้แต่ช่วยชีวิตโดยใช้จมูก ตั้งแต่การดมระเบิดหรืออาวุธเหมือนสุนัขทหาร ไปจนถึงการแจ้งเตือนเจ้าของที่เป็นลมบ้าหมูหรือผู้ป่วยโรคเบาหวานถึงอาการชักหรือระดับน้ำตาลในเลือดต่ำได้อีกด้วย
สุนัขมีประสาทรับกลิ่นได้ดีกว่ามนุษย์เพราะจมูกของพวกมันมีโครงสร้างต่างกัน รูจมูกของสุนัขแต่ละตัวมีช่องเปิดสำหรับหายใจเข้าและหายใจออกแยกกัน ช่วยให้สามารถรับกลิ่นจากทิศทางต่างๆ ได้
สุนัขมีวิธีการหายใจที่แตกต่างจากมนุษย์ สุนัขมักจะเดินโดยให้จมูกจรดพื้น เพื่อสำรวจทุกกลิ่นที่พบเจอจากการสูดดมหลายๆครั้งอย่างถี่ถ้วน ซึ่งสุนัขสามารถสูดดมได้อย่างน้อย 5 - 6 ครั้งต่อวินาที
และในขณะที่มนุษย์นั้นมีตัวรับกลิ่นในจมูกเพียงประมาณ 5 ล้านตัวเท่านั้นเอง
สุนัขขึ้นชื่อในเรื่องความสามารถในการรับรู้กลิ่นจากระยะไกล แต่การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการรับรู้กลิ่นของพวกมันมีมากกว่านั้น นอกจากการรับรู้กลิ่นจากอาหารหรือสัตว์อื่นๆแล้ว พวกมันยังสามารถรับรู้อารมณ์ เช่น ความกลัวหรือความโศกเศร้า โดยการสัมผัสกลิ่นของอะดรีนาลีน
อัตราการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นทำให้สารเคมีที่มีลักษณะเฉพาะซึมเข้าสู่ผิวหนังของเรา ซึ่งสุนัขสามารถสัมผัสได้ทันที นั่นเป็นสาเหตุที่สุนัขมักถูกฝึกให้เป็นสัตว์ช่วยเหลือ
แม้ว่ามนุษย์จะอาบน้ำเป็นประจำและใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและน้ำหอมเพื่อกลบกลิ่นตัวตามธรรมชาติ แต่สุนัขก็ยังสามารถรับกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเราได้ นั่นเป็นสาเหตุที่สุนัขมักจะทักทายคุณหรือเพื่อนและญาติของคุณโดยการดมบริเวณขาหนีบซึ่งมีต่อมเหงื่ออะโพไครน์ที่ผลิตฟีโรโมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บ่งบอกถึงกลิ่นเฉพาะของแต่ละบุคคล
น่าทึ่งมากๆเลยใช่ไหมคะ กับความสามารถสุดพิเศษทางการรับรู้กลิ่นของเพื่อนสี่ขาของพวกเรา